บทที่ 2 ตอนที่ 2
คราวนี้เสียงหัวเราะของทอมดังลั่นคับห้อง ซึ่งมันก็ทำให้สันหลังของพุดแก้วเย็นยะเยือก ลางร้ายแห่งหายนะกำลังหายใจรดต้นคอ
“เดี๋ยวคุณแม่ก็จะเข้าใจเองครับ”
พูดจบผู้ชายเจ้าแผนการก็หันมาจ้องหน้าหล่อน และออกคำสั่งให้หล่อนลุกขึ้นยืนเผชิญหน้า พุดแก้วไม่มีทางเลือกเลยต้องยอมทำตาม
“แล้วคราวนี้ถ้าแกทำผิดพลาดปล่อยให้ไอ้ไทโรนมันจับได้อีกล่ะก็ น้องสาวของแกที่เมืองไทยจะไม่ใช่แค่ไม่มีเงินส่งเสียให้เล่าเรียนเท่านั้นนะ แต่ลมหายใจของมันก็จะดับสูญไปด้วย ท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจนะพุดแก้ว”
“ไม่... ไม่... อย่าทำอะไรน้องของพุดนะ ได้โปรด... พี่ทอม... พี่ทอม...”
ในขณะที่พุดแก้วร่ำไห้ปานจะขาดใจ ยกมือไหว้วิงวอน โทมัสกับนิโคลกลับหัวเราะสะใจ
“งั้นแกก็ต้องทำให้สำเร็จ ล้วงความลับของไอ้ไทโรนมาให้ฉันให้ได้”
“ค่ะ... ค่ะ พุดจะทำให้ได้”
ไม่มีทางเลือก... หล่อนไม่มีทางเลือกตั้งแต่ลืมตาดูโลกแล้วนั่นแหละ มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด
“แล้ว... ถ้าพุดทำสำเร็จ... คุณป้ากับพี่ทอมสัญญาได้ไหมคะว่าจะปล่อยให้พุดกลับไปหาน้อง”
โทมัสกับนิโคลลอบมองหน้ากัน สายตาเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ร้าย
“ถ้าแกสำเร็จ ฉันจะยอมให้แกกลับไปหาน้องสาว พร้อมกับเงินอีกก้อนใหญ่ แต่ถ้าแกทำพลาด... น้องสาวแกเดือดร้อนแน่”
นิโคลหัวเราะร่วน โทมัสด้วยเช่นกัน ทั้งสองหัวเราะขณะที่หล่อนร้องไห้ปานจะขาดใจ ทรุดตัวลงกองกับพื้นอีกครั้ง เมื่อสองคนนั้นเดินจากไปแล้ว
ทำไมโชคชะตาถึงทำร้ายหล่อนแบบนี้ หรือว่าอยากจะให้หล่อนหมดลมหายใจตามบิดาไปเลย แต่หล่อนคงทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก เพราะน้องสาวแท้ๆ ของหล่อนกำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เนื่องจากมารดาที่เคยดูแลได้หนีจากไปมีสามีใหม่นั่นเอง
นัยน์ตาคมกริบสีสนิมของไทโรน คาร์ตันหนึ่งในมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลกหรี่แคบเล็กลงด้วยความประหลาดใจ เมื่อหนึ่งในข่าวพาดหัวใหญ่ของหนังสือพิมพ์แนวหน้าของอเมริกาซึ่งเชื่อมั่นในความเป็นจริงได้ถึง 90% รายงานว่า...
‘นิโคล และโทมัส บราวน์ ประกาศตัดขาดความสัมพันธ์ทุกกรณีกับ นางสาวพุดแก้ว รัตนเศรณี ผู้เป็นลูกติดของอดีตสามีคนที่สามของนางนิโคล บราวน์ สืบเนื่องจากโทมัส บราวน์จับได้ว่านางสาวพุดแก้ว รัตนเศรณีแอบนำข้อมูลซึ่งเป็นความลับสุดยอดของยูไนเต็ด บราวน์ไปขายให้กับบริษัทคู่แข่ง เพื่อนำเงินไปเที่ยวเตร่ ดังนั้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป นางสาวพุดแก้ว รัตนเศรณีไม่ใช่คนของตระกูลบราวน์อีกต่อไป ขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน’
คิ้วเข้มที่พาดผ่านดวงตาคมกริบไม่ผิดจากพญาเหยี่ยวเลิกสูง สมองผุดภาพใบหน้าหวานละมุนของพุดแก้วขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
“นางฟ้า...”
ไทโรนเผลอตัวพึมพำออกมา ก่อนจะรีบสะบัดศีรษะแรงๆ เพื่อขับไล่ความลุ่มหลงน่าละอายนั้นออกไปจากสมอง
ผู้หญิงคนนี้น่ารังเกียจ หล่อนดูไร้เดียงสา แววตาหวานๆ คู่นั้นดูตื่นกลัวตลอดเวลา แต่มันก็แค่การเสแสร้ง การแสดงเพื่อดึงดูดราชสีห์หนุ่มเช่นเขาเท่านั้น หล่อนเป็นนางมารร้าย ผู้หญิงที่เป็นหายนะสำหรับผู้ชายทรงอำนาจเช่นเขา
“ฉันไม่มีวันหลงกลพวกเธอหรอก”
ว่าแล้วไทโรนก็โยนหนังสือพิมพ์ลงกับโต๊ะทำงานไม้ตรงหน้า และพูดกับคนสนิทสองคนที่ยืนรอรับคำสั่งอยู่ห่างออกไปที่ฝั่งประตู
“นายคิดว่าข่าวในหนังสือพิมพ์นี่ เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แดนนี่”
บอดี้การ์ดร่างสูงในชุดสูทสีดำทะมึน ก้าวเดินมาหยุดตรงหน้าผู้เป็นนาย พลางหยิบหนังสือพิมพ์ที่ถูกโยนเอาไว้ขึ้นไปอ่าน ก่อนจะรีบตอบ
“ธุรกิจค้าอาวุธเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูงมาก ผมว่า...”
แดนนี่หยุดพูดนิดหนึ่งก่อนจะพูดต่อเมื่อเห็นสายตาสีสนิมจ้องมองมาอย่างต้องการคำตอบ
“ผู้หญิงคนนี้อาจจะทรยศจริงๆ ก็ได้ครับ ไม่อย่างนั้นโทมัส บราวน์คงไม่กล้านำเรื่องฉาวโฉ่แบบนี้ออกมาป่าวประกาศแน่”
ไทโรนแค่นยิ้ม ภาพพุดแก้วที่เคยเสมือนนางฟ้าในสมองค่อยๆ ถูกแทรกด้วยภาพของนางมารร้ายน่าสะอิดสะเอียน
“แล้วนายล่ะ เฮ็นรี่”
แดนนี่ส่งหนังสือพิมพ์ให้กับเพื่อนร่วมงานที่รูปร่างใหญ่โตบึกบึนไม่แพ้กัน เฮ็นรี่ก้มอ่านไม่กี่วินาทีก็เงยหน้าขึ้นมาตอบ
“ผมก็คิดเหมือนกับแดนนี่ครับ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เชื้อสายของตระกูลบราวน์ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เธอจะทรยศครับ”
“แต่ฉันกลับไม่คิดเหมือนพวกนายนะ แดนนี่ เฮ็นรี่”
ดวงตาคมกริบสีสนิมมืดลึกอ่านไม่ออก รอยยิ้มหยันแต้มที่สองมุมปากสวยจัด
แดนนี่กับเฮ็นรี่มองสบตากัน ก่อนที่เฮ็นรี่จะเป็นคนเอ่ยถามออกไป
“ทำไม... คุณไทถึงคิดแบบนั้นล่ะครับ”
